บ้านสไตล์โคโรเนียล
บ้านสไตล์โคโรเนียล อิทธิพลตะวันตกผสานความเป็นไทย
” บ้านสไตล์โคโรเนียล (Colonial Style) เป็นศิลป์แบบตะวันตกที่เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ยุครัชกาลที่ 5-6 ซึ่งอยู่ในยุคล่าอาณานิคม คนตะวันตกจะมีการก่อสร้างตึกต่างๆในประเทศราชของตัวเอง แบบตึกยุคนั้นก็เลยมีการผสมระหว่างความเป็นตะวันตกกับความเป็นหลักถิ่นของประเทศนั้นๆสำหรับเมืองไทยเองแม้ว่าไม่เคยกลายเป็นเมืองประเทศราชของชาติอะไรก็แล้วแต่แต่ว่าก็ยังคงได้รับอิทธิพลด้วยเช่นเดียวกัน “
ผู้คนยุคนั้นเรียกสถาปัตยกรรมอย่างงี้เคยปากว่า “อาคารฝรั่ง” หรือรู้จักกันดีว่าเป็น บ้านสไตล์ฟาร์มเฮาส์ “สถาปัตยกรรมอาณานิคม” ซึ่งได้รับอิทธิพลจากกรุ๊ปคลาสสิก ยิ่งกว่านั้นยังมีเล็กน้อยได้รับอิทธิพลจากกรุ๊ปโรแมนติกที่นิยมตกแต่งตกแต่งด้วยลวดลายไม้ปรุที่เรียกกันว่า “เรือนขนมปังขิง” เป็นแบบที่เข้ามาพร้อมกลุ่มหมอสอนศาสนาซึ่งเข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในดินแดนอาณานิคมแล้วก็ดินแดนใกล้เคียง โดยเหตุนี้ “สถาปัตยกรรมแบบมิชชั่น” ก็เลยถูกจัดเอาไว้ภายในกลุ่มนี้ด้วย
จุดเด่นของทรงตึกวัวโลเนียลเป็นมีระเบียงกว้างที่มีเสามารองรับชายคาเรียงหน้ากันเป็นจังหวะ ตัวบ้านนิยมใช้โทนสีอ่อนหรือสีพาสเทล ได้แก่สีขาว สีครีมงา เขียวอ่อน ชมพูอ่อน รวมทั้งฟ้าอ่อน ฝาผนังส่วนมากเป็น “ฝาผนังไม้ตีซ้อนเกล็ด” สลับกับฝาผนังปูน อาจมีการประดับประดาด้วยบัวปูนปั้นรอบชายคา และก็ส่วนประกอบของเสาที่บางเวลาก็มีการตัดทอนจากเสาโรมัน รั้วนอกบ้านและก็ราวระเบียงนิยมใช้ไม้ลงสีขาวมาเรียงกันเป็นจังหวะที่เรียบง่าย
ประตูและก็หน้าต่างถูกจัดวางอย่างมีความเรียบร้อยในแนวเดียวกัน นิยมใช้อีกทั้งทรงสี่เหลี่ยมและก็ทรงโค้งรูปเกือกม้า มักเพิ่มเนื้อหาด้วยเส้นประดับลูกฟักเพื่อแบ่งช่องประตูแล้วก็หน้าต่างให้มองน่าดึงดูด บางทีอาจแต่งแต้มตกแต่งด้วยบัวปูนปั้นรอบกรอบหน้าต่าง หรือเพิ่มความงอนงามด้วยไม้ฉลุลายข้างบน บ้านสไตล์ตะวันออก
แล้วก็เปิดรับความมีชีวิตชีวานอกหน้าต่างด้วยกระบะดอกไม้สีสันผ่องใส เชื่อมโยงกับสวนข้างนอกบ้านที่ปรับปรุงจากสวนสไตล์คลาสสิก แม้กระนั้นตัดทอนความเป็นทางการแล้วก็ความสมมาตรให้ลดลง มองรื่นเริงเป็นธรรมชาติ
บ้านเก่ามีคุณค่า ที่เปรียบได้ดั่งมรดกของสถาปัตยกรรมไทย
ไทยนับเป็นประเทศที่ร่ำรวยด้วยวัฒนธรรม ซึ่งผสมมาจากนานัปการเชื้อชาติจนถึงกลมกลืนแปลงเป็นวัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์ของตน ไม่เว้นแม้กระทั้ง บ้านวัวโลเนียล งานสถาปัตยกรรม พวกเราได้สะสม บ้านข้างหลังสวยที่แก่ดั้งเดิมนับหลายสิบปีไปจนกระทั่งร้อยปีมาให้ดูกัน บ้านสไตล์คลาสสิก
แต่ละข้างหลังได้เสนอความคิดแบบไทยแล้วก็งานสถาปัตยกรรมจากชาติอื่นมาหลอม บ้านฟาร์มในสวน รวมจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นบ้านที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์แล้วก็มีคุณค่า เหมาะสมแก่การรักษาไว้ให้คนรุ่นใหม่ได้มองเห็นพัฒนาการของการออกแบบบ้านในประเทศไทย
เรือนมนิลา
- ที่ตั้ง : 66 กลุ่มที่ 6 ขอบลำคลองพระยากึกก้อง ตำบลไม้ยี่ห้อ อำเภอบางไทร จังหวัดอยุธยา
- ผู้ครอบครอง : รศ.สุกษม อัตนวานิช
- ปีที่สร้าง : คาดการณ์ว่าสร้างในปี พุทธศักราช 2456 ได้รับรางวัลสงวนศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่นจากสัมพันธ์คนเขียนแบบไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รายปี พุทธศักราช 2555 บ้านระแนงสีขาว
บ้านข้างหลังนี้เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครดังเหลายเรื่องเนื่องจากว่าการอนุรักษ์และรักษาบ้านให้ทรงสภาพบริบูรณ์ก็มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างจะมากมาย การอนุญาตให้เข้ามาถ่ายทำละครได้ก็เลยเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งสำหรับเพื่อการช่วยทำให้บ้านมีชื่อเสียงแล้วก็ได้เงินไว้ซ่อมบำรุงเล็กน้อยด้วย
เรือนข้างหลังนี้คาดคะเนว่าทำขึ้นในราวรัชสมัยรัชกาลที่ 6 เดิมเจ้าของบ้านเป็นนายอำเภอเสนา สร้างเรือนนี้ขึ้นที่อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ช่างที่ปลูกบ้านเป็นคนจีนไหหลำ แรกเริ่มผู้ครอบครองท่านเดี๋ยวนี้อยากจะซื้อเพียงแค่หน้าต่างเก่าเพื่อนำไปประกอบสำหรับในการปลูกเรือนชายน้ำเพียงแค่นั้น
แต่ว่าด้วยข้อเสนอจากพ่อค้าขายสินค้าเก่าที่สวนจตุจักรก็เลยได้ซื้อเรือนข้างหลังนี้จากยายท่านหนึ่ง ชื่อของบ้านนั้นผู้ครอบครองเรียกตามหนังสืออาคารบ้านเรือนไทยว่า “เรือนมนิลา” ด้วยความมุ่งมั่นต้องการซ่อมแซมเรือนข้างหลังนี้มากยิ่งกว่าซื้อเฉพาะหน้าต่างตามความตั้งอกตั้งใจเดิม รวมทั้งอยากได้รักษาตัวตึกให้ใกล้เคียงกับเรือนข้างหลังเดิมเยอะที่สุด วิลล่าภูเก็ต
พิพิธภัณฑสถานบ้านเอกะนาค
- ที่ตั้ง : 1061 ซอกซอยอิสระ 15 ถนนหนทางอิสระ ตำบลหิรัญรูจี เขตจังหวัดธนบุรี จ.กรุงเทพฯ
- ผู้ครอบครอง : มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
- ปีที่สร้าง : พุทธศักราช 2462 ได้รับรางวัลรักษาศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่นจากสโมสรนักออกแบบไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รายปี พุทธศักราช 2555
พิพิธภัณฑสถานบ้านเอกะนาคตั้งอยู่รอบๆข้างหลังมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ชิดกับโรงเรียนมัธยมศึกษาแสดงมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ข้างหน้าตึกวางให้ขนานไปกับลำคลองบางไส้ไก่ ตอนแรกบ้านเอกะนาคทำขึ้นในปี พุทธศักราช 2462
ตรงกับรัชสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นเรือนไทยทรงปั้นหยาของ พันตำรวจเอกพระยามุ่งหวังสรรพการ (ยวง เอกะนาค) ซึ่งเคยครอบครองตำแหน่งรองอธิบดีกรมตำรวจ ถัดมาเป็นของลูกหญิงเป็น คุณประยูรวงศ์ เอกะนาค แต่ว่าเหตุเพราะลูกสาวของท่านไม่มีผู้สืบสกุลสืบสายเลือด บ้านข้างหลังนี้ก็เลยเป็นเจ้าของของมหาวิทยาลัยตามพินัยกรรม SALE VILLA
ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิษณุ บางเขียว อดีตกาลผู้อำนวยการ สำนักศิลป์และก็วัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เล่าว่า “ในระยะต้นนั้นทางมหาวิทยาลัยไม่มีทุนสำหรับเพื่อการดูแล ก็เลยกำเนิดปัญหาน้ำหลากขัง ทำให้รอบๆด้านล่างทรุด ไม้แผ่นนิดหน่อยผ่านไปตามน้ำ กระเบื้องหลังคาแตกหัก ภาวะบ้านณ เวลานั้นย่ำแย่มากมาย
จนกระทั่งเมื่อปี พุทธศักราช 2541 สำนักศิลป์รวมทั้งวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยามีแผนการจะซ่อมรวมทั้งเปลี่ยนแปลงบ้านเอกะนาคให้มีภาวะบริบูรณ์ดังที่เคยอีกทั้งข้างนอก ด้านใน และก็ภูมิทัศน์รอบๆ โดยจุดเริ่มของการบูรณะเป็นเพื่อเป็น ‘ศูนย์จังหวัดธนบุรีเรียนรู้’ สถานที่เก็บองค์วิชาความรู้ แหล่งรวมงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยรวมทั้งวัฒนธรรมต่างๆของบริเวณฝั่งธนบุรี” ขายบ้าน
ข้างในพิพิธภัณฑสถานก็เลยเต็มไปด้วยเรื่องราวมากไม่น้อยเลยทีเดียวเริ่มตั้งแต่ยุคธนบุรีเป็นราชจังหวัด มีการแสดงภาพเก่าหายาก ยกตัวอย่างเช่น ภาพเกาะกึ่งกลางหน้าวัดอรุณราชวราราม ภาพลำคลองสมเด็จกับพระปรางค์วัดพิชยเครือญาติการาม รอบๆวัดประยุรวงศาวาสก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 อาชีพต่างๆของชาวฝั่งธนบุรี
ดังเช่นว่า แนวทางการทำขลุ่ยที่บ้านลาว วิธีการทำขันลงหินที่บ้านบุ ของหวานฝรั่งกุฏิจีน กระบวนการทำฆ้องวงบ้านเนิน กระบวนการทำหัวโขนวัดบางไส้ไก่ ตลอดจนความมากมายหลาย ด้านวัฒนธรรมอันเป็นผลมาจากผู้คนหลากเชื้อชาติอีกทั้งไทย จีน แขก มอญ แล้วก็ลาวที่เข้ามาอาศัยอยู่ตรงนี้
บ้านหลวงศรีนครานุกูล
- ที่ตั้ง: เลขที่ 133 ถนนหนทางก้าวหน้าเมือง อำเภอเมืองฯ จังหวัดแพร่
- คนเขียนแบบ/ผู้ออกแบบ : หลวงศรีนครานุกูล
- ผู้ครอบครอง : คุณพงศ์พันธุ์ธร สุทธภักตำหนิ (หลานปู่)
- ปีที่สร้าง : ไม่รู้จักชัด (อายุราวๆ 100 ปี)
แพร่เป็นเมืองดั้งเดิมที่มีเรื่องมีราวกล่าวขานถึงความเจริญรุ่งเรือง ชื่อเดิมที่ปรากฏในประวัติศาสตร์เชียงแสนเป็น “เมืองแพล” แม้กระนั้นเดี๋ยวนี้เสียงได้สติไม่ดีเป็นแพร่ การมาเยี่ยมเมืองแพร่ในคราวนี้มีเรื่องมีราวราวที่น่าค้นหาในหน้าประวัติศาสตร์มากไม่น้อยเลยทีเดียว หนึ่งในนั้นเป็นจุดหมายที่นี้ “บ้านหลวงศรีนครานุกูล”
คุณวงศ์ธร สุทธภักตำหนิ ผู้ครอบครองบ้านข้างหลังนี้ เล่าถึงประวัติความเป็นมาของบ้านให้ฟังว่า “หลวงศรีนครานุกูล นามเดิมเป็น เจียม สุทธภักตำหนิ เป็นผู้ออกแบบและก็ก่อสร้างบ้านข้างหลังนี้เพื่อใช้อยู่อาศัยบนที่ดินที่ได้รับมาจากพระยาแม่น้ำคงคามหาสมุทรเพชร ผู้เป็นพ่อตา ใช้ช่างก่อสร้าง 3 ชุด เป็น ช่างปฏิบัติตนบ้านเป็นคนจีนฮกเกี้ยน village
ช่างตกแต่งรวมทั้งทำเครื่องตกแต่งบ้านเป็นคนจีนเซี่ยงไฮ้ รวมทั้งช่างแรงงานทั่วๆไปเป็นชาวกรุงแพร่ ตัวบ้านสร้างด้วยความสามารถอันวิจิตรบรรจงสวยสดงดงาม ในยุคนั้นช่างจีนมีฝีมือการก่อสร้างมากยิ่งกว่าช่างพื้นบ้าน หลวงศรีนครานุกูลเป็นคนละเอียดรอบคอบ
ท่านควบคุมการก่อสร้างและก็เลือกไม้เองทุกชิ้น ไม่ใช้ไม้ที่มีกระพี้ตาไม้เลยแม้กระทั้งแผ่นเดียว รวมทั้งผึ่งไม้อยู่นานถึง 10 ปีเพื่อแห้งสนิท ทำให้ตลอดตัวเรือนแล้วก็เครื่องเรือนได้รับการผลิตขึ้นอย่างยอดเยี่ยมและก็สวย บางชิ้นมีกลไกการเปิด – ปิดที่สลับซับซ้อนเกินกว่าช่างฝีมือคนท้องถิ้นจะทำเป็น”
บ้านสังคหะวังตาล
- ที่อยู่ : พิพิธภัณฑสถานประจำถิ่นชุมชนหลวงสิทธิ์ 215/3 ตำบลบ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
- นักออกแบบ : ชาวอิตาลี ไม่ปรากฏนามผู้ออกแบบ
- ผู้ครอบครอง : คุณลักษณะ-คุณฟ้า พิษณุไวศยวาท
- ปีที่สร้าง : พุทธศักราช2470
บ้านข้างหลังนี้เดิมเป็นของขุนนางโท หลวงสิทธิเทวดาการ หรือนายกิมเลี้ยง วังตาล พ่อค้าและก็คฤหบดีคนจีนซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่มีหน้าที่อย่างยิ่งในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียงในช่วงนั้น คุณหลวงเป็นเจ้าของธุรกิจการค้าเยอะมาก ได้แก่ ตลาดบ้านโป่ง โรงน้ำแข็ง โรงเลื่อย โรงสี ไปจนกระทั่งเป็นเจ้าของที่ดินเกือบจะทั้งยังบ้านโป่ง ในตอนปี พุทธศักราช 2470
ท่านตกลงใจย้ายบ้านจากแถวน้อยลมาอยู่ที่บ้านโป่งเป็นการถาวร รวมทั้งในเวลาถัดมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยความดีความชอบสำหรับการอาสาจัดค่ายซ้อมรบของกิจการค้าเสือป่าที่บ้านโป่งได้เสร็จในช่วงเวลาอันสั้น
ท่านขุนนางโท หลวงสิทธิเทวดาการยังเป็นโรมันคาทอลิกที่เข้มงวดรวมทั้งมีส่วนร่วมสำหรับเพื่อการช่วยเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในจังหวัดราชบุรี มิสชันนารีชาวอิตาลีก็เลยได้ให้เกียรติมาเป็นผู้ออกแบบบ้านข้างหลังนี้ ตัวตึกมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบอิตาเลียนวิลล่า ทำมาจากปูนผสมกับไม้เหมือนวังเทวะเวสม์ ประสมประสานหลายสไตล์ ทั้งยังนีโอคลาสสิก อาร์ตนูโว รวมทั้งวัวโลเนียล
นับได้ว่าเป็นตึกที่สวยสดงดงามแล้วก็นำสมัยมากมายในสมัยนั้น นอกนั้นยังได้นำศิลป์และก็แนวความคิดแบบจีนมาใช้สำหรับเพื่อการดีไซน์ด้วย อาทิเช่น รูปปั้นไก่ที่แต่งแต้มตามส่วนต่างๆของบ้านซึ่งมาจากดาวปีเกิดของคุณหลวงและก็เมีย หรือเหล็กดัดลายใยแมงมุมตามความศรัทธาด้านฮวงจุ้ย ก็เลยทำให้บ้านนี้มีความพิเศษต่างจากบ้านข้างหลังอื่นๆ
อ่านต่อเพิ่มเติม: Pool Villas Pasak . sale villa . Phuket Villa. Pool Villa. พูลวิลล่าภูเก็ต. โครงการบ้านภูเก็ต. บ้านจัดสรร. พูลวิลล่าภูเก็ต ราคาถูก. ซื้อวิลล่าภูเก็ต